ไอเดียแต่งบ้านหลายแบบ ไอเดียหลายแบบในการแต่งบ้าน
ไอเดียแต่งบ้านหลายแบบ เซฟรูปห้องแบบอย่างเก็บเอาไว้มาก อย่างงั้นก็ถูกใจ ห้องนี้ก็ใช่ แม้กระนั้นพอเพียงเก็บข้อมูลจะเอาไปคุยกับช่าง รู้สึกยังไม่แน่ใจว่าแบบห้องที่อยากได้เรียกว่าการตกแต่งบ้านสไตล์อะไร กลัวติดต่อสื่อสารบกพร่อง รู้เรื่องมีความขัดแย้ง ทำให้งานออกมาบ้าไปจากที่อยากได้ ถ้าหากว่าเป็นเช่นนั้นมาดูพร้อมเพียงกันจ้ะว่ามีสไตล์การตกแต่งบ้านแบบไหนบ้าง แล้วสไตล์การตกแต่งบ้านแต่ละแบบมีข้อดีเช่นไร จะได้เอาไปคุยกับช่างได้ทราบเรื่อง

1. สไตล์โบฮีภรรยาน
สไตล์โบฮีภรรยาน (Bohemian Style) หรือ โบโฮ-ชิค (Boho-Chic) มิได้มีข้อกำหนดแน่ๆว่าจำเป็นที่จะต้องสีนั้นสีนี้หรือเน้นย้ำไปที่การใช้อุปกรณ์จำพวกใดประเภทหนึ่ง กล่าวได้ว่าค่อนข้างจะฟรีสไตล์ขึ้นกับความชื่นชอบส่วนตัว เลยทำให้เป็นสไตล์ตกแต่งบ้านที่มีความเป็นเอกลักษณ์รวมทั้งสะท้อนตัวตนออกมาอย่างเห็นได้ชัด ฮวงจุ้ยบ้านหรู
แม้กระนั้นมีจุดที่พินิจได้ชัดๆเลยก็คือ การตกแต่งบ้านสไตล์โบฮีภรรยานมักจะสีสันจัดจ้า เล่นกับเส้นลวดลาย ภายใต้แสงสว่างซอฟต์ๆบรรยากาศสบายๆออกแนวเชิญฝัน แล้วก็ที่ต้องมีให้ได้เลยก็คือของตกแต่งจากธรรมชาติ ได้แก่ ขน หิน ก้านไม้ หรือการปลูกต้นไม้กระถางเล็กๆไว้ภายในบ้าน นอกเหนือจากนั้นก็ยังมีของแฮนด์เมด โมบาย งานโครเชต์ แล้วก็ดรีม แคชเชอร์ (Dream Catcher) ที่ชอบได้มองเห็นกันเสมอๆจากการตกแต่งบ้านสไตล์นี้ด้วย
2. สไตล์วัวสตัล
สไตล์วัวสตัล (Coastal Style) แม้ผู้ใดกันถูกใจฟีลกู้ดของบรรยากาศบนชายทะเลละก็ พวกเราก็ขอเสนอแนะการตกแต่งบ้านสไตล์นี้เลย ซึ่งการตกแต่งบ้านในสไตล์นี้จะเน้นย้ำไปที่การเลือกใช้สีโทนเย็น อาทิเช่น สีฟ้า ขาว สีน้ำเงิน เขียว และก็เครื่องเรือนที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติเป็นหลัก อาทิเช่น โต๊ะไม้ เก้าอี้หวาย รวมทั้งของตกแต่งชิ้นเล็กๆสวยๆอย่าง กาบหอย โมเดลเรือนตะเกียง หรือภาพวาดของทะเล
3. สไตล์คอนเทมโพรารี
สไตล์คอนเทมโพรารี (Contemporary style) เป็นการตกแต่งบ้านแบบร่วมยุค โดยการประสมประสานระหว่างแบบบ้านในอดีตกาลกับปัจจุบันนี้เข้าด้วยกัน โทนสีที่นิยมใช้ส่วนมากจะเป็นโทนสีกึ่งกลาง อย่างเช่น สีครีม ขาว น้ำตาล เทา เปลี่ยนแปลงลุคบ้านให้มองเรียบหรู แม้กระนั้นก็มองอบอุ่นรวมทั้งคุ้นเคย นอกเหนือจากนี้ยังมีการจัดวางเลย์เอาต์ที่ชัดแจ้ง ไม่สะเปะสะปะ เน้นย้ำเครื่องเรือนชิ้นใหญ่รวมทั้งของที่ใช้งานได้จริงมากยิ่งกว่าของตกแต่งเพื่อความงดงาม
4. สไตล์คอตเทจ
สไตล์คอตเทจ (Cottage Style) การตกแต่งบ้านที่มีอีกทั้งกลิ่นของแนวคันทรี ออกวินเทจนิดๆแต่ว่าก็ไม่ถึงกับย้อนยุคซะทีเดียว เนื่องจากซ่อนเร้นความนำสมัยอยู่หน่อยๆซึ่งสีที่ถูกประยุกต์ใช้ส่วนมากจัดอยู่ในกรุ๊ปสีเอิร์ธโทน ซึ่งเข้ากันได้กับเครื่องเรือนไม้เนื้อแข็งรวมทั้งของโบราณที่เป็นกิมไม่กของการตกแต่งบ้านสไตล์นี้ ครั้งคราวก็มีการนำลายดอกและก็โทนสีพาสเทลเข้ามาเป็นองค์ประกอบ เพื่อทอนความแข็งแรงแข็งกระด้าง เพิ่มความละมุน สวยหวาน แต่ว่าก็ไม่มันจนกระทั่งเกินความจำเป็น PHUKET VILLA
5. สไตล์วินเทจ
สไตล์วินเทจ (Vintage Style) สไตล์การตกแต่งบ้านแบบย้อนยุคและก็มีการออกแบบประณีตบรรจงในทุกรายละเอียด มักใช้ลวดลายที่มองพลิ้วไหว งอนงาม ได้แก่ ลายดอกไม้ สำหรับสีที่ประยุกต์ใช้กับสไตล์วินเทจมักจะเป็นสีอ่อนๆอย่างสีขาว ครีม แดงอ่อน เหลืองอ่อน แล้วก็ม่วงอ่อน ทั้งทรงของเครื่องเรือนจะมองคล้ายกับเครื่องเรือนหฝ่าส์ แต่ว่ามีการตัดทอนเนื้อหาลงมา
6. สไตล์อิเล็กทริก
สไตล์อิเล็กทริก (Eclectic Style) อีกหนึ่งสไตล์การแต่งบ้านที่มีความสะดุดตาแล้วก็มีเอกลักษณ์ อยู่นอกกรอบขอบเขตของกฎต่างๆเนื่องจากว่ามีสาเหตุมาจากการนำข้าวของที่มีชีวิตชีวา ลวดลาย ขนาด แล้วก็ต้นแบบที่แตกต่างมาจัดวางเข้าด้วยกันอย่างพอดี วิลล่าภูเก็ต
7. สไตล์ลอฟท์
สไตล์ลอฟท์ (Loft style) สไตล์การตกแต่งบ้านที่เกิดขึ้นข้างหลังสงครามโลกครั้ง 2 ซึ่งเป็นช่วงๆที่วิกฤตเศรษฐกิจ หลายบริษัทจำเป็นต้องปิดตัว รวมทั้งก่อให้เกิดโรงเก็บของร้างเยอะๆ ซึ่งถัดมาถูกกลายเป็นที่อยู่อาศัย ก่อนที่จะถูกกล่าวถึงมาเป็นแรงจูงใจของการออกแบบบ้านในช่วงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นห้องเพดานสูง การเปิดทางประตู-หน้าต่างขนาดใหญ่ โชว์งานระบบต่างๆการเปลือยผิวอุปกรณ์แบบไม่มีการตกแต่ง ย้ำของตกแต่งที่ทำมาจากก้อนอิฐ เหล็ก ปูน แล้วก็ไม้
8. สไตล์โมเดิร์น
สไตล์โมเดิร์น (Modern Style) การตกแต่งบ้านสำหรับผู้ที่ถูกใจความง่ายๆ ไม่หรูหราวิจิตรตระการตา แต่ว่าดูดีด้วยโทนสีแล้วก็ทรงปกติ ซึ่งโทนสีที่ประยุกต์ใช้หลายครั้งในสไตล์โมเดิร์น ตัวอย่างเช่น สีขาว ดำ รวมทั้งเทา ครั้งคราวก็ใช้แม่สีมาเพิ่มเติมความแจ่มใส แล้วก็ของตกแต่งทรงเลขาคณิต เพื่อสอดคล้องกับพื้นที่รวมทั้งการใช้แรงงาน
9. สไตล์ไม่นิมอล
สไตล์ไม่นิมอล (Minimal Style) วิธีการตกแต่งบ้านสไตล์ไม่นิมอลก็เป็น การตัดส่วนที่ไม่มีความสำคัญ รวมทั้งเหลือไว้เฉพาะสิ่งจำเป็น ตามคอนเซ็ปต์ “Less is More” หรือน้อยแม้กระนั้นมากมาย โดยการตกแต่งด้วยเครื่องเรือนน้อยชิ้น ข้าวของถูกจัดเก็บอย่างเรียบร้อย สะอาดตา รวมทั้งย้ำใช้สีอิงกับธรรมชาติแบบสีเอิร์ธโทนหรือสีอ่อนๆตัวอย่างเช่น สีขาว น้ำตาล สีเขียว แล้วก็สีฟ้า
10. สไตล์สแกนดิเนเวีย
สไตล์สแกนดิเนเวีย (Scandinavian Style) สไตล์การตกแต่งบ้านที่ได้แรงจูงใจมาจากประเทศในกรุ๊ปนอร์ดิก (ยุโรปทางเหนือ) ซึ่งเครื่องเรือนต่างๆมิได้ถูกดีไซน์มาเพื่อใช้งานแค่นั้น แม้กระนั้นยังมีดีไซน์ที่สวยให้ความรู้ความเข้าใจสึกเสมือนงานศิลปะที่มีความธรรมดาและไม่สลับซับซ้อน นิยมใช้งานไม้และก็ตกแต่งด้วยโทนสีกึ่งกลางหรือสีอ่อนๆดังเช่นว่า ครีม เทา สีน้ำเงิน หรือฟ้าอ่อน บรรยากาศด้านในเน้นย้ำความโปร่งสบาย สว่าง แล้วก็อบอุ่นด้วยแสงสว่างจากธรรมชาติ แต่งบ้านน่าอยู่ๆ
11. สไตล์รัสติก
สไตล์รัสติก (Rustic Style) สไตล์การตกแต่งบ้านที่บางทีอาจมองคล้ายกับสไตล์ลอฟท์ แม้กระนั้นมีไม่เหมือนกันตรงที่สไตล์รัสติกมีกลิ่นของวินเทจนิดๆรวมทั้งคันทรีหน่อยๆเน้นย้ำเครื่องเรือนขนาดใหญ่และก็ของที่ทำมาจากงานไม้ แม้ว่าจะเปลือยผิวอุปกรณ์ แต่ว่าก็มีการตกแต่งให้มองงาม นอกเหนือจากนี้ยังนิยมใช้ของโบราณมารียูสใหม่หรือของ DIY ที่สร้างขึ้นเอง
12. สไตล์ทคอยปิคอล
สไตล์ทคอยปิคอล (Tropical Style) สไตล์การตกแต่งบ้านที่มองแจ่มใสสดชื่น นิยมใช้สีรวมทั้งลวดลายเอาอย่างธรรมชาติ ในเมืองที่มีอากาศร้อน อาทิเช่น สีฟ้า สีเขียว สีเหลือง ผ้าพิมพ์ลายใบไม้ใหญ่ๆให้ความรู้ความเข้าใจสึกเสมือนได้พักร้อน เหมาะสมกับการพักผ่อนหย่อนใจ สบาย รวมทั้งบรรเทา
13. สไตล์โอเรียนทอล
สไตล์โอเรียนทอล (Oriental Style) การตกแต่งบ้านที่ได้แรงดลใจมาจากวัฒนธรรมแล้วก็ศิลป์จากฝั่งทิศตะวันออก การออกแบบแล้วก็วางแบบของต่างๆมีการเปลี่ยนแปลงให้กับภาวะชีวิตความเป็นอยู่ของคนภายในเขตแดนแล้วก็อากาศ โทนสีที่ใช้โดยมากนิยมใช้สีทองคำ น้ำตาล ดำ แดง แล้วก็ใช้สิ่งของจากธรรมชาติ หาได้ง่ายจากแคว้น ย้ำความสบายมากยิ่งกว่าความหรูหราเลิศเลอ สะท้อนตัวตนของมนุษย์ในทวีปเอเชียได้อย่างดีเยี่ยม
นอกเหนือจากการเรียนรู้ข้อมูลแล้ว หากจะให้แน่นอนก็อย่าลืมเอาแบบอย่างห้องแบบอย่างไปด้วย เพราะเหตุว่าคำชี้แจงของพวกเราสิ่งเดียว บางทีก็อาจจะสื่อสิ่งที่มีความต้องการของพวกเราได้ไม่หมด แม้กระนั้นรูปจะช่วยชี้แจงเพิ่มได้ดียิ่งไปกว่า